กรณีศึกษา : โลกออนไลน์และสังคมไร้เงินสด กำแพงโลกใหม่ที่ถูกเปิดกว้างเพราะ covid-19?
ถึงจะผ่านมาหลายเดือนแล้วก็ตาม แต่ covid-19 ก็ยังคงเป็นท็อปปิคที่คนส่วนใหญ่พูดถึงกันอยู่เสมอ เนื่องจากสถานการณ์ยังคงไม่ดีขึ้นมากนัก ผู้ติดเชื้อยังคงมีเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ แม้ภายหลังรัฐบาลจะเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์บ้างแล้ว ด้วยการเปลี่ยนเวลาเคอร์ฟิวจาก 4 ทุ่มขึ้นไปเป็น 5 ทุ่ม และยังเปิดให้คนเข้าไปเดินห้างได้ครั้งละ 2 ชั่วโมงก็ตามที
จึงกล่าวได้ว่าเวลานี้ภาคธุรกิจทั่วไปหลายส่วนกำลังค่อยๆขยับไปอย่างช้าๆท่ามกลางสภาวะการระบาดของ covid-19 นั่นเอง นับว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามองอย่างยิ่งถึงทิศทางที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต หากแต่สิ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็คือการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ที่นับวันจะยิ่งเพิ่มขึ้นทั้งที่ห้างหลายห้างจะเปิดให้บริการแล้วก็ตาม แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรรมของผู้บริโภคที่กำลังจะเปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน หรือนี่จะถึงเวลาสำหรับสังคมไร้เงินสดอย่างแท้จริง?
สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงมานานแล้วในแง่ของบทบาทใหม่ทางเศรษฐกิจ เมื่อเงินสดไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป และทุกอย่างจะขึ้นตรงกับทางออนไลน์หมด สังคมไร้เงินสดจึงเป็นสิ่งที่ควบคู่มากับธุรกิจออนไลน์ ที่เน้นการซื้อขายด้วยการเลือกสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และใช้จ่ายด้วย e-Payment หรือใช้บัตรเครดิตแทนที่การใช้เงินจริง ซึ่งสังคมไร้เงินสดนับว่าเป็นความสะดวกสบายเหมาะสมต่อโลกออนไลน์ในยุคปัจจุบันมาก โดยสังคมไร้เงินสดเป็นโครงการที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในประเทศที่พัฒนาแล้ว เพราะเชื่อกันว่า จะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆในการผลิตธนบัตร และยังสะดวกสบายในแง่ของการทำธุรกรรมต่างๆอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ความนิยมในการใช้จ่ายด้วยเงินสดก็ยังมีมากกว่าการไม่ใช้เงินสดอยู่ดี โดยล่าสุดในปี 2562 ระบุไว้ว่าการใช้จ่ายเงินสดในธุรกรรมด้านต่างๆยังคงมีมากถึง 77% ถึงแม้มีแนวโน้มว่าจะลดลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังพูดได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่ยังนิยมกับการใช้เงินสดซื้อสินค้าต่างๆมากกว่าจะใช้จ่ายด้วยอินเทอร์เน็ตอยู่ดี
ส่วนหนึ่งที่ทำให้รูปแบบของสังคมไร้เงินสดยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะคนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการใช้เงินจริงมากกว่าอยู่แล้ว การหันมาใช้จ่ายทางออนไลน์แม้ว่าจะสะดวกสบายก็จริง แต่ก็ยุ่งยากในเรื่องของการปรับตัวไม่ว่าจะตัวผู้ใช้บริการหรือร้านค้าก็ตามที และยังมีปัจจัยด้านการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต รวมถึงความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมออนไลน์ ที่หลายคนรู้สึกว่าไม่มีความเป็นส่วนตัวเท่าไรนัก ต่างจากการใช้เงินสดที่เราเองได้เป็นเจ้าของจริงๆ และใช้จ่ายได้อย่างสบายใจมากกว่า การใช้จ่ายด้วยเงินจริงจึงยังคงได้รับความนิยมมากกว่าอยู่ดี
หากแต่ว่าการมาถึงของ covid-19 อาจจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปก็เป็นได้
ถ้าจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคเพราะโรคระบาด เคสที่ชัดเจนที่สุดคงหนีไม่พ้นประเทศจีน ประเทศที่กำลังครองอันดับหนึ่งด้านสังคมไร้เงินสดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมี covid-19 ประเทศจีนก็เคยเผชิญหน้ากับโรคซาร์สมาก่อนเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ซึ่งนับว่าสถานการณ์ในตอนนั้นไม่ได้แตกต่างจาก covid-19 ตอนนี้เลยแม้แต่น้อย เพราะส่งผลกระทบทั้งกับเศรษฐกิจของจีนและกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนในตอนนั้นอย่างมาก แต่กลับทำให้เหล่า E-Commerce ในประเทศจีนได้รับความนิยมอย่างมากตามไปด้วย เนื่องจากประชาชนในตอนนั้นไม่กล้าออกจากบ้าน จึงหันมานิยมสั่งสินค้าผ่านทางออนไลน์อย่างแพร่หลาย ถึงขั้นที่ทำให้บริษัท Taobao ทำยอดขายสินค้าออนไลน์แซง eBay ที่เคยครองตลาดจีนมาได้อย่างราบคาบ และขึ้นแท่นเป็นแชมป์ E-Commerce ระดับโลกที่ยังไม่มีใครโค่นได้มาจนถึงตอนนี้
และการเติบโตของ E-Commerce นี้เองที่ผลักดันให้ประชาชนส่วนใหญ่หันมาจับจ่ายเงินออนไลน์มากกว่าเงินสด และความเคยชินจากการจับจ่ายเงินออนไลน์ทำให้พฤติกรรมของชาวจีนเปลี่ยนไป แม้ว่าโรคซาร์สจะหายไปแล้วแต่หลายคนก็ยังคุ้นชินกับการจับจ่ายเงินทางออนไลน์เหมือนเดิม นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เร่งให้ตลาดจีนกลายมาเป็นสังคมไร้เงินสดถึงวันนี้
ซึ่งนายซุนเมิ่งจื่อ นักวิเคราะห์เศรษฐกิจจากบริษัทที่ปรึกษาอนาไลซีส ยังได้วิเคราะห์เอาไว้ด้วยว่าการระบาดของ covid-19 ครั้งนี้จะทำให้สังคมจีนทั้งหมดเปลี่ยนใช้ชีวิตแบบดิจิทัลมากขึ้น และเป็นการผลักดันธุรกิจออนไลน์ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งด้วย จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การมีอยู่ของ covid-19 คือจุดทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่ใช่แค่ในจีนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงทั่วโลกในขณะนี้เลยด้วย
จึงพูดได้เลยว่าการมีอยู่ของ covid-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนหลายด้านในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิถีชีวิตและพฤติกรรมของคนทั่วไป ไปจนถึงภาคธุรกิจต่างๆที่ต้องปรับตัวสู่การเป็นออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การซื้อ การขาย การใช้เงิน การทำงาน เพราะคนทั่วไปกำลังจะคุ้นชินกับดิจิทัล และโซเชียลมีเดียจะกลายมาเป็นสื่อหลักในชีวิตประจำวันในที่สุด วีถีชีวิตแบบออนไลน์เช่นนี้คงน่าจะอยู่กับเราไปอีกนาน และอาจจะพัฒนามาเป็น New Normal ในอนาคตก็เป็นได้
มาถึงตรงนี้กอริล่าคิดว่าเพื่อนๆคงเล็งเห็นแล้วถึงความสำคัญของบทบาทสังคมไร้เงินสดและธุรกิจออนไลน์ที่กำลังมาแรงอยู่ตอนนี้ และน่าจะยังมาแรงต่อไปถึงแม้ว่าจะหมดจาก covid-19 แล้วก็ตาม ถือว่าเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสก็ได้ เพราะสังคมไร้เงินสดย่อมส่งผลดีต่อร้านค้าต่างๆอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงอย่าประมาทความสำคัญช่องทางออนไลน์เลยเชียวล่ะ
กอริลล่าอยากแนะนำเพื่อนๆให้ดูกรณีศึกษาจากประเทศจีนเป็นตัวอย่างในการวางแผนและปรับตัวกับธุรกิจของตัวเองในระหว่างการระบาดของ covid-19 ดูนะครับ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ธุรกิจของเพื่อนๆก้าวสู่ความเปลี่ยนแปลงสู่สังคมไร้เงินสด และเพื่อก้าวต่อไปในอนาคตอีกด้วย กอริลล่าเชื่อว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกันนะครับ
————————————————————————————————————————————–
ข้อมูลอ้างอิง https://www.ryt9.com/s/prg/3110499
https://www.salika.co/2020/03/13/business-opportunity-from-covid-19-in-china/